ทำความรู้จักกับ “ไฟเบอร์” ตัวช่วยระบบขับถ่าย

 การทานไฟเบอร์ชนิดนี้จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาท้องผูก หรือผู้ที่ต้องการทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร (Detox) ซึ่งในปัจจุบันหลายคนก็นิยมเรียกไฟเบอร์กลุ่มนี้ว่า “พรีไบโอติก (Prebiotics)” เพราะช่วยส่งเสริมให้แบคทีเรียกลุ่ม “โฮลิสต้า พรีไบโอติก (Probiotics)”

เจริญเติบโตได้ดี โดยไฟเบอร์ชนิดนี้มักจะพบได้ในรำข้าว อ้อย ซีเรียล ขนมปังไม่ขัดสี และผัก

ประโยชน์ของไฟเบอร์

กระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ขับถ่ายเป็นปกติ

ช่วยเพิ่มมวลอุจจาระ ทำให้อุจจาระนิ่ม ขับถ่ายออกมาได้ง่าย

ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

อิ่มอยู่ท้องได้นาน เป็นตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก

ดูดซับสารก่อมะเร็งที่ปนมากับอาหาร และขับถ่ายออกมาพร้อมกับอุจจาระ

  • ลดการดูดซึมไขมันและคอเลสเตอรอล ป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ลดการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ระดับน้ำในเลือดไม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน

ปริมาณไฟเบอร์ที่ควรได้รับในแต่ละวัน

นักโภชนาการแนะนำว่าการรับประทานไฟเบอร์ให้เพียงพอต่อร่างกายในแต่ละวัน จะอยู่ที่ประมาณ 25–30 กรัม แต่คนส่วนใหญ่มักจะรับประทานไฟเบอร์ได้เพียง 2 ใน 3 ของปริมาณที่แนะนำเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป เพราะจะส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการท้องอืด หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อยอาหารได้ค่ะ

สรุปได้ว่าไฟเบอร์นั้นเป็นเส้นใยอาหารที่มาจากผักผลไม้ มีคุณสมบติโดดเด่นที่ช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้การทำงานของลำไส้เกิดความสมดุล ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้อย่างเป็นปกติและขับถ่ายของเสียออกมาได้ โดยมีทั้งประเภทละลายน้ำได้ และไม่สามารถละลายน้ำได้ ซึ่งทั้งสองประเภทก็จะมีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป

สำหรับใครที่ไม่มั่นใจว่าจะรับประทานไฟเบอร์ในปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวันได้ เราแนะนำให้มองหาอาหารเสริมไฟเบอร์มารับประทานร่วมด้วยค่ะ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิว Bad Boys for Life กำเนิดใหม่ของคู่หูไมอามี่

ซิ ลิ โคน เสริม หน้าอก ยี่ห้อไหนดี

ข้อดีของการใช้แบบหล่อท่อกระดาษ ในงานก่อสร้าง จากบริษัทสิงห์ชัย อุตสาหกรรม จำกัด