เท้า หัวใจ ไต ตา เรื่องที่ผู้ป่วยเบาหวานต้องใส่ใจดูแล

 เท้า ผู้ป่วยเบาหวานมานานหลายปีระบบปลายประสาทจะเสื่อมลง มีอาการมือและเท้าชา ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเมื่อเกิดบาดแผลที่เท้า จึงมักไม่รู้ตัว และเมื่อเกิดบาดแผลจะหายยากกว่าปกติ หากดูแลไม่ถูกวิธีจะเกิดภาวะแผลติดเชื้อ และลุกลามจนอาจถึงขั้นต้องตัดเท้าทิ้ง วิธีดูแลเท้า :ต้องหมั่นสำรวจเท้า ระวังไม่ให้เกิดบาดแผล เลือกใส่รองเท้าที่สบายพอดีเท้า สวมถุงเท้าไม่ปล่อยให้เท้าขาดความชุ่มชื้น เมื่อเกิดแผลที่เท้าต้องดูแลรักษาอย่างถูกวิธีและรีบปรึกษาแพทย์

หัวใจ โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวาน เกิดจากหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงหัวใจเสื่อมร่วมกับไขมันในเลือดสูงทำให้หลอดเลือดตีบหัวใจขาดเลือด หากอุดตันก็จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายวิธีดูแลหัวใจ :ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควรตรวจค่าระดับน้ำตาลอย่างละเอียดและสม่ำเสมอ ควบคุมไขมัน คอเลสเตอรอล หลีกเลี่ยงการกินของทอด ของมัน ที่สำคัญต้องควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ไต โรคไตวายเรื้อรังหรือเบาหวานลงไต ทำให้ไตทำงานหนักขึ้น ส่งผลทำให้ไตเสื่อมกรองของเสียออกจากร่างกายได้ลดลงมีของเสียค้างอยู่ในเลือด ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ โรคไตเรื้อรังจะเกิดกับผู้ที่เป็นเบาหวานมานาน จะไม่แสดงอาการชัดเจน ผู้ป่วยเบาหวานมักพบว่าเป็นโรคไตในระยะที่อาการแย่ลงแล้ววิธีดูแลไต :ระวังเรื่องการรับประทานอาหาร ไม่ควรทานอาหารรสจัด (เค็มจัด เผ็ดจัด หวานจัด) หรืออาหารที่มีโปรตีนสูงมากเกินไป ควรตรวจปัสสาวะ และการทำงานของไตอย่างน้อยปีละครั้ง ควรงดการสูบบุหรี่เพราะส่งผลต่อการทำงานของไตโดยตรง

ตา ภาวะเบาหวานขึ้นตาคือภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยเบาหวานที่เป็นมานาน ทำให้เส้นเลือดและระบบจอประสาทตาเสื่อม โป่งพอง และรั่วได้ ทำให้มีอาการตามัว หากปล่อยไว้นานอาจลุกลาม ส่งผลต่อการมองเห็น อาการของภาวะนี้จะไม่แสดงออกอย่างชัดเจนวิธีดูแลตา :หากตรวจพบว่าเป็นโรคเบาหวาน ควรมีการตรวจตาอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อสังเกตการณ์มองเห็น หากตามัว มองเห็นไม่ชัด ควรรีบพบหมอเพื่อตรวจตาทันที ควบคุมระดับน้ำตาล ความดัน และไขมันในเลือด ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

https://www.glucerna.co.th/diabetes/knowledge/Diabetic-in-eyes-Check-the-symptoms-and-how-to-handle-correctly