การตรวจเอชไอวีไม่สามารถทำได้ทันทีหลังจากมีความเสี่ยงรับเชื้อมา

 การตรวจเอชไอวีไม่สามารถทำได้ทันทีหลังจากมีความเสี่ยงรับเชื้อมา โดยระยะเวลาก่อนตรวจหาเชื้อได้จะขึ้นอยู่กับวิธีตรวจที่สถานพยาบาลที่นั้น ๆ ใช้อยู่ แต่แบบที่ใช้ตามโรงพยาบาลมากที่สุดจะสามารถทำได้ตั้งแต่ 14 วันหลังจากมีความเสี่ยงเป็นต้นไป มีชื่อว่า “4th generation anti-HIV rapid test”

การตรวจเอชไอวีส่วนมากจะเป็นวิธีที่ตรวจได้รวดเร็ว ซึ่งจะมีตั้งแต่ 20นาที – 1ชั่วโมงตามแต่ละสถานที่ตรวจและปริมาณคนไข้ ทำให้สามารถรอรับผลได้ทันที 
การตรวจเอชไอวี การเจาะเลือดตรวจเอชไอวีที่ดีที่สุดจะเป็นการเจาะบริเวณข้อพับแขน เพราะจะเป็นบริเวณที่โอกาสผลคลาดเคลื่อนมีน้อยมาก และเจาะได้ง่าย แต่บางที่อาจจะยังใช้วิธีเจาะที่ปลายนิ้วมืออยู่ ซึ่งเป็นวิธีที่โอกาสผลคลาดเคลื่อนค่อนข้างสูง

ทั้งการเจาะเลือดและการดูดเลือดผ่านเข็มจะเป็นขั้นตอนที่ต้องเจาะสิ่งแปลกปลอมผ่านผิวหนัง ฉะนั้นไม่ว่าจะเจาะเบามือแค่ไหนก็ต้องรู้สึกเจ็บอยู่ดี หากใครที่ไม่ชอบเข็มฉีดยาหรือมีอาการกลัวเข็ม ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้ง

เนื่องจากการตรวจเลือดสามารถตรวจหาได้หลายอย่างมากไม่ว่าจะเป็น ตรวจโรคซิฟิลิส ตรวจไวรัสตับอักเสบ ตรวจหาความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ตรวจค่าตับค่าไต และอีกมากมาย ฉะนั้นหากต้องการเข้าตรวจเอชไอวีควรเจาะจงชื่อโรคที่ต้องการจะตรวจตรง ๆ เพื่อป้องกันความสับสนที่อาจเกิดขึ้นได้


ประโยชน์ของการตรวจเอชไอวี
สามารถเข้ารับการรักษาได้ทันที ไม่ต้องรอให้แสดงอาการ
ได้รับการรักษา จะทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถทำงานได้อย่างปกติ
สามารถวางแผนป้องกันคู่ของตนเองติดเชื้อ และชวนคู่ไปตรวจเลือดได้
สามารถวางแผนป้องกันการติดเชื้อไปสู่ลูกได้
สามารถป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อเอชไอวีได้
มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเอชไอวี/เอดส์ และการป้องกันตนเองได้อย่างถูกต้อง
เอชไอวีตรวจเร็วรักษาเร็ว ดีอย่างไร?
โรคเอชไอวีก็เหมือนกับโรคอื่น ๆ ที่รักษายิ่งเร็วก็จะยิ่งหายเร็วและไม่ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพ ถึงแม้เอชไอวีจะหายขาดไม่ได้ แต่การเริ่มรักษาเร็วจะทำให้คนไข้อยู่ในสถานะตรวจไม่พบเชื้อได้เร็ว (Undetectable) ซึ่งสามารถเทียบเท่ากับผู้ไม่มีเชื้อเอชไอวีได้ เพราะเมื่อคนไข้อยู่ในสถานะตรวจไม่พบเชื้อ ก็จะไม่สามารถแพร่เชื้อเอชไอวีได้อีกตราบใดที่ยังอยู่ในฤทธิ์ของยา

ปัจจุบันเป้าหมายของการรักษาโรคเอชไอวีทั่วไปคือการทำให้คนไข้อยู่ในสถานะตรวจไม่พบเชื้อให้เร็วที่สุด และให้ทุกคนที่ตรวจพบเชื้อเข้าสู่กระบวนการรักษาเพื่อให้ไม่สามารถแพร่เชื้อต่อไปได้อีก และจนกว่าจะมีวิธีรักษาที่ดีกว่าในอนาคต ผู้อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีจะต้องทานยาต้านไวรัสทุกวันไปเรื่อย ๆ เพื่อกดไม่ให้เชื้อเอชไอวีแพร่กระจายตามร่างกาย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รีวิว Bad Boys for Life กำเนิดใหม่ของคู่หูไมอามี่

ซิ ลิ โคน เสริม หน้าอก ยี่ห้อไหนดี

ข้อดีของการใช้แบบหล่อท่อกระดาษ ในงานก่อสร้าง จากบริษัทสิงห์ชัย อุตสาหกรรม จำกัด