ความแตกต่างระหว่างยา PEP และ PrEP
ความแตกต่างระหว่างยา PEP และ PrEP
ยา PEP เป๊ป ย่อมาจาก post-exposture prophylaxis เป็นการนำยาต้านไวรัสมาจ่ายให้คนที่เพิ่งจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ให้กินภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีความเสี่ยงไม่ว่าจะเป็น ถุงยางอนามัยแตก ถูกข่มขืน พลาดไปมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้าโดยไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย หรือแม้แต่การถูกเข็มตำหรือของมีคมบาดในสถานพยาบาล เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อ HIV โดยจะต้องกินยาอย่างสม่ำเสมอไปเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์หลังจากมีความเสี่ยง
ยา PEP ประกอบด้วยยาชนิดไหนบ้าง
PEP ประกอบด้วยยาต้านไวรัส 3 ชนิดโดยแพทย์จะเป็นผู้เลือกชนิดให้เป็นรายบุคคลไป ดังนี้
- Nevirapine ( NVP ) 200 mg
- Lamivudine ( 3TC ) 150 mg
- Stavudine ( d4T ) 30 mg
จำเป็นต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาปรับเปลี่ยนสูตรยา PEP ตามความเหมาะสม ในบางรายแพทย์อาจให้ ยา GPO vir Z250mg เพียงตัวเอง ซึ่งในยานี้มีชนิดยาทั้ง 3 ชนิดผสมอยู่ด้วยแล้ว
สาเหตุที่ต้องรับยา PEP
PEP เป็นยาต้านฉุกเฉินในกรณีการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันและควรเก็บไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
- ป้องกันแล้วแต่ถุงยางอนามัยเกิดหลุด ถุงแตก
- ไม่ได้สติขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาจเกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือฤทธิ์ยาบางชนิด
- การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน หรืออุบัติเหตุจากการโดนเข็มฉีดยาตำ
การรับยา PEP จะช่วยยับยั้งการกลายเป็นตัวไวรัสที่สมบูรณ์ ซึ่งจะทำให้ร่างกายของผู้ป่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันในการป้องกันก่อนจะแพร่กระจายในร่างกายได้ ดังนั้นจึงควรรับประทานยาให้เร็วที่สุด
ใครบ้างที่ควรได้รับยาเป็ป ( PEP )
ผู้ที่จะทานยา PEP ต้องเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงว่าจะติดเชื้อแบบกะทันหัน
- คนที่มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน
- ถูกล่วงละเมิดทางเพศมา
- มีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่อาจจะมีเชื้อเอชไอแล้วถุงยางอนามัยหลุดหรือฉีกขาด
เรียกว่ามีไว้สำหรับผู้ที่คาดว่ามีการสัมผัสเชื้อเอชไอวี แบบไม่ตั้งใจ จำเป็นต้องกินยาให้เร็วที่สุดภายหลังการสัมผัสเชื้อจากภาวะเสี่ยงต่างๆ
จะรับยา PEP มีขั้นตอนอย่างไร
หากรู้ตัวหรือสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงที่จะรับเชื้อ HIV มา หลายคนมักไม่กล้าและไม่รู้ว่าจะสามารถ รับยา pep ได้ที่ไหน ให้ทำตามขั้นดังนี้ค่ะ
- ขั้นตอนแรกต้องเข้ามารับคำปรึกษาประเมินความเสี่ยงโดยแพทย์ก่อน
- หลังจากนั้นหากแพทย์ประเมินแล้วว่ามีความเสี่ยงสมควรได้รับยา PEP จริง จะต้องมีการเจาะเลือดคนไข้เพื่อตรวจว่าไม่ได้ติดเชื้อ HIV อยู่ก่อนแล้ว รวมถึงตรวจคัดกรองโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ และสุขภาพโดยรวม ค่าไตค่าตับของคนไข้ด้วย ว่าพร้อมจะกินยาหรือไม่
- เข้าพบแพทย์ เพื่อเลือกตัวยาที่เหมาะสม
- รับยากลับบ้าน
ลองติดต่อสอบถามกับทาง Bangkok Safe Clininc ได้ที่ช่องทางติดต่อ เพื่อขอปรึกษาแพทย์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น