ความอันตรายของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
เนื่องในวิกฤษที่อันตรายและการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของตัวเชื่้อ ได้มีการคิดค้นการฆ่าเชื้อโรค โดยใช้รังสี UV ฆ่าเชื้อ เช่ธนบัตรขวดพลาสติก อุปกรณ์สำหรับใส่อาหาร และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฆ่าเชื้อไวรัส สามารถยับยั้งฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสต่างๆได้ถึง 100% จึ่งเป็นทางเลือกใหม่ ที่สะอาด และปลอดภัยสำหรับคนในครอบครัวและคุณที่คุณรัก
แม้ว่าความอันตรายของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะไม่ได้ดูน่ากลัวและสยดสยองเหมือนภาพการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซอมบี้ในภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง แต่พอมาเป็นสถานการณ์จริงที่ในปัจจุบันระดับการแพร่ระบาดถูกยกขึ้นมาเป็นการแพร่ระบาดใหญ่ (pandemic) ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม มียอดผู้ติดเชื้อทะลุ 2 แสนรายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ทำให้เกิดความตระหนกและกังวลไปทั่วโลก ไม่ต่างจากสถานการณ์เชื้อไวรัสซอมบี้ที่เห็นในหนัง
ณ จุดที่ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 มีออกมารายวัน อาจมีส่วนทำให้เกิดความตระหนกและกังวลมากกว่าที่ควรจะเป็น “ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” จึงรวบรวมข้อมูลที่ควรรู้ ทั้งการกลายพันธุ์ของไวรัสว่าน่ากลัวจริงหรือไม่ การพัฒนาวัคซีนตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว ทำไมประเทศต้นทางอย่างจีนถึงก้าวพ้นจากวิกฤตการแพร่ระบาดได้ก่อนใคร รวมถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาการและความสามารถในการติดต่อของโรคจากองค์กรที่เชื่อถือได้อย่าง WHO ขอเชิญผู้อ่านติดตามไปพร้อมกัน
แม้ว่าความอันตรายของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะไม่ได้ดูน่ากลัวและสยดสยองเหมือนภาพการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซอมบี้ในภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง แต่พอมาเป็นสถานการณ์จริงที่ในปัจจุบันระดับการแพร่ระบาดถูกยกขึ้นมาเป็นการแพร่ระบาดใหญ่ (pandemic) ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม มียอดผู้ติดเชื้อทะลุ 2 แสนรายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ทำให้เกิดความตระหนกและกังวลไปทั่วโลก ไม่ต่างจากสถานการณ์เชื้อไวรัสซอมบี้ที่เห็นในหนัง
ณ จุดที่ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 มีออกมารายวัน อาจมีส่วนทำให้เกิดความตระหนกและกังวลมากกว่าที่ควรจะเป็น “ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” จึงรวบรวมข้อมูลที่ควรรู้ ทั้งการกลายพันธุ์ของไวรัสว่าน่ากลัวจริงหรือไม่ การพัฒนาวัคซีนตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว ทำไมประเทศต้นทางอย่างจีนถึงก้าวพ้นจากวิกฤตการแพร่ระบาดได้ก่อนใคร รวมถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาการและความสามารถในการติดต่อของโรคจากองค์กรที่เชื่อถือได้อย่าง WHO ขอเชิญผู้อ่านติดตามไปพร้อมกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น